Huawei Mate 40 Pro และ Pro+ เปิดตัวแล้ว มาพร้อมกล้องที่ดีที่สุดในตลาด พร้อม CPU Kirin 9000 ประสิทธิภาพสูง

นอกจาก Mate 40 รุ่นหลักแล้ว ยังได้เปิดตัวรุ่นพี่อีก 2 รุ่นอย่าง Huawei Mate 40 Pro และ Mate 40 Pro+ ที่มีการยกระดับสเปคให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เริ่มต้นกันที่ Huawei Mate 40 Pro 5G รุ่นนี้มาพร้อมจุดขายสำคัญคือกล้องถ่ายภาพตัวใหม่ มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่มากที่ 1/1.28” ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในตลาดตอนนี้ มีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านพิกเซล (จากเดิม 40MP) มีระบบโฟกัสแบบ omnidirectional autofocus รูรับแสง f1.9 และรองรับ OIS ระบบกันสั่นด้วยเลนส์ มีขนาดพิกเซล 1.22µm ที่ช่วยให้เก็บแสงได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีระบบ Laser autofocus ที่ทำงานได้เร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้น

ที่กล้องหลัก รองรับการบันทึกวีดีโอ 4K @60fps สามารถถ่ายวีดีโอสโลโมชั่น 480fps ที่ Full HD และสามารถถ่ายได้ในระดับ 3,840 fps แทบจะหยุดเวลาเลยที่ 720p ส่วนกล้องหน้าก็สามารถถ่ายวีดีโอ 4K/60fps ได้เช่นกัน

ถัดมาเป็น Cine Camera ในเจนใหม่นี้มาพร้อมเซ็นเซอร์ 20MP f1.8 เลนส์มุมกว้าง ที่เป็นกล้องบนมือถือตัวแรกของโลกที่ใช้เลนส์แบบ free form ที่สามารถลดลักษณะการบิดเบือนของเลนส์มุมกว้างพิเศษได้

ต่อมาเป็นกล้อง periscope ระยะ 125 มม. ที่มีขนาด 12MP รองรับการซูม 5x optical f3.4 มี OIS

ต่อมาไปดูกล้องของ Huawei Mate 40 Pro+ 5G กันบ้าง ความแตกต่างของรุ่น Pro ทั้ง 2 รุ่นหลักๆ จะอยู่ที่กล้องซูมนี่ล่ะครับ โดยในรุ่น Pro+ จะได้กล้องซูมแบบ Periscope รองรับ 10x optical zoom ความละเอียด 8MP f4.4 และยังมีกล้องซูมระยะกลางอีกตัวที่ความละเอียด 12MP รองรับการซูม 3x และ OIS ก็มีมาให้ทั้ง 2 กล้อง

ต่อมาจะเป็นอะไรที่เหมือนกันบ้างครับ โดย Mate 40 Pro ทั้งสองรุ่น มาพร้อมกล้องหน้า 13MP มีเซ็นเซอร์ depth ในตัวที่ใช้ในการสั่งการแบบ gesture ที่อยู่บน EMUI 11 และใช้ในการสแกนใบหน้าด้วย ส่วนการสแกนลายนิ้วมือก็ใช้การสแกนบนหน้าจอ

หน้าจอมีขนาด 6.76 นิ้วแบบ OLED ความละเอียด 2772×1344 พิกเซล ช่วยให้การแสดงผลคมขึ้น ที่ด้านข้างของหน้าจอมีความโค้งเข้ารูปที่ 88 องศา และมีปุ่มควบคุมเสียง และปุ่ม power แบบปุ่มกดไว้ให้ด้วย

หน้าจอรองรับความถี่ 90Hz 240 Hz touch sampling rate มีลำโพงเสียงคู่แบบ stereo รองรับระบบเสียง 3D และระบบสั่นที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ให้มาที่ 4400mAh เท่ากับปีที่แล้ว แต่พัฒนาระบบ fast charge ให้ดีขึ้นกว่าเดิม คือรองรับที่ 66W ผ่านพอร์ต USB-C และการชาร์จไร้สายที่ 50W ที่ถือว่าเร็วมาก และรองรับ reverse charging ด้วยแน่นอน

Huawei Mate 40 Pro มาพร้อม CPU Kirin 9000 ชิป 5nm รุ่นใหม่ล่าสุด ทำความเร็วได้สูงสุด 3.13GHz มาพร้อมโมเด็ม 5G ในตัว และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi6+

Mate 40 Series รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-Pen Stylus มีโหมด Multi-screen Collaboration ที่จะสามารถจำลองหน้าจอสมาร์ทโฟนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

Huawei Mate 40 Pro เปิดตัวที่ยุโรปตัวเลือกความจำเดียวครับ คือ RAM 8GB/256GB (เพิ่มเมมได้ด้วย NM Card) โดยเปิดตัวที่ราคา 1,200 ยูโร หรือประมาณ 44,400 บาท

ในขณะที่ Huawei Mate 40 Pro+ มีฝาหลังหรูกว่า เป็น ceramic โดยในรุ่น RAM 12GB/256GB เริ่มต้นทื่ราคา 1,400 ยูโร หรือประมาณ 51,800 บาท

ที่มา GSMArena