Infinix เปิดตัว Note 50s 5G+ พร้อมแผงหลังเคลือบกลิ่นหอม
Infinix เพิ่งเพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับซีรีส์ Note 50 โดยรุ่นนี้มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้โทรศัพท์น่าสนใจยิ่งขึ้น ขอต้อนรับ Infinix Note 50s 5G+ ที่มีแผงหลังเคลือบกลิ่นหอม
โทรศัพท์รุ่นนี้อยู่ในกลุ่มราคาย่อมเยาของตลาดระดับกลาง มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 7300 และกล้องคู่หน้าจอของ Note 50s เป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตรารีเฟรชสูงสุด 144 Hz และความสว่างสูงสุด 1,300 nits ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ที่มีความโค้งเล็กน้อยทั้งสองด้าน เกาะกล้องเป็นรูปแปดเหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบของโทรศัพท์ Note 50 รุ่นอื่นๆ โดยมีกล้องหลักความละเอียด 64 MP พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX 682 และเลนส์รอง 2 MP นอกจากนี้ยังมีแฟลช LED คู่ และ Active Halo Lighting พร้อมโหมดต่างๆ รวมถึงไฟแจ้งเตือน
จุดขายสำคัญของ Note 50s คือกลิ่นหอมอย่างชัดเจน Infinix เรียกว่า “Energizing Scent-Tech” และนำมาใช้เฉพาะกับสี Marine Drift Blue ซึ่งเป็นแผงหลังหนังวีแกน เทคโนโลยีนี้ใช้การห่อหุ้มขนาดเล็กเพื่อผสานน้ำหอมเข้ากับหนัง (ซึ่งทำจากพลาสติก) ซึ่งออกแบบมาให้ปล่อยกลิ่นหอมออกมาเมื่อเวลาผ่านไป กลิ่นหอมนี้มีกลิ่นนำของทะเลและมะนาว กลิ่นกลางของลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ และกลิ่นฐานของอำพันและหญ้าแฝก ความเข้มข้นและระยะเวลาของกลิ่นหอมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้และปัจจัยแวดล้อม อย่างไรก็ตาม Infinix ไม่ได้ระบุว่ากลิ่นจะจางหายไปนานแค่ไหน
ตัวโทรศัพท์มาพร้อมกับ Android 15 และ XOS 15 ครอบทับ มีแบตเตอรี่ขนาด 5,500 mAh พร้อมการชาร์จแบบมีสาย 45W และ Infinix แถมอะแดปเตอร์มาให้ในกล่อง แบตเตอรี่รองรับการชาร์จแบบบายพาสและมีระบบชาร์จแบบมีสายย้อนกลับ 10W คำว่า 5G Plus ในชื่อหมายถึง Note 50s รองรับคลื่นความถี่ที่กว้างขึ้น ใช่แล้ว มันเร็วกว่าและมีความจุสูงกว่า แต่ก็มีการครอบคลุมที่จำกัดกว่า มันเป็นเพียงชื่อที่ดูดีสำหรับการเชื่อมต่อ mmWave ซึ่งมีให้บริการเฉพาะในบางเมืองในอินเดียที่มีเขตเมือง อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้ว
Infinix นำเสนอ Note 50s 5G+ ในสี Marine Drift Blue รวมถึงสี Titanium Gray และ Burgundy Red ราคาเริ่มต้นที่ 190 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,300 บาท)สำหรับรุ่น 8/128 GB และสูงสุด 210 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 7,000 บาท) สำหรับรุ่น 8/256 GB โทรศัพท์จะเริ่มวางจำหน่ายบน Flipkart ในวันที่ 24 เมษายน