Apple เปิดตัว Apple Watch Series 11
Apple Watch Series 11 พร้อมชุดคุณสมบัติด้านสุขภาพที่ครบครันที่สุดเท่าที่เคยมีมา แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น กระจกครอบที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และความสามารถด้านระบบเซลลูลาร์ 5G ทั้งหมดนี้มาในดีไซน์ที่บางที่สุดและสวมใส่สบายที่สุด Apple Watch Series 11 คือคู่หูด้านสุขภาพและความฟิตที่เหนือชั้น พร้อมเสริมพลังให้ผู้ใช้มีข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับด้วยคะแนนการนอนหลับซึ่งจะเข้ามาเสริมทัพชุดคุณสมบัติด้านสุขภาพที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้ยอดเยี่ยมขึ้นอีก

Apple Watch ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง และกระจก Ion-X ที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 2 เท่า จึงสวมใส่ได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อความสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย และ watchOS 26 ยังช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งวิธีใช้งานเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแอ็คทีฟ มีสุขภาพดี และต่อติดกับทุกเรื่องในแบบของตัวเองได้มากขึ้นด้วย Workout Buddy ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence คำสั่งพลิกข้อมือ หน้าปัดนาฬิกาใหม่ และอีกมากมาย
Apple Watch Series 11 พร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ Apple Watch Series 11 มีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียมในสีใหม่อย่างเทาสเปซเกรย์รวมไปถึงดำเจ็ทแบล็ค โรสโกลด์ และเงิน และยังมาในแบบไทเทเนียมขัดเงาในสีธรรมชาติ ทอง และเทาสเลทอีกด้วยที่ระบุถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ดังนี้:
- คะแนนการนอนหลับ (Sleep Score): ฟีเจอร์ใหม่ใน watchOS 26 ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจคุณภาพการนอนหลับได้ดีขึ้น โดยจะสรุปข้อมูลจากปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาการนอนหลับ ความสม่ำเสมอ และช่วงการนอนหลับแต่ละระดับ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนได้
 - แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น: สามารถใช้งานได้สูงสุด 24 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จเร็ว โดยชาร์จเพียง 15 นาทีก็ใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง
 - ความทนทานของหน้าจอ: รุ่นอะลูมิเนียมใช้กระจก Ion-X ที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 2 เท่า ส่วนรุ่นไทเทเนียมยังคงใช้กระจกแซฟไฟร์
 - ระบบเซลลูลาร์ 5G: รองรับการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้ดาวน์โหลดเพลง พ็อดคาสท์ และแอปต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าเดิม
 - Workout Buddy: ฟีเจอร์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence ซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายและให้คำแนะนำด้วยเสียงที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน
 - watchOS 26: มาพร้อมการอัปเดตต่างๆ เช่น คำสั่งพลิกข้อมือแบบใหม่, การเสนอวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ, การแปลข้อความสด และแอปโน้ต

สิ่งที่มาพร้อมกับ watchOS 26 เพิ่มเติม
- ดีไซน์ซอฟต์แวร์ใหม่: มี Liquid Glass ที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาในการแสดงผล
 - หน้าปัดใหม่: มีหน้าปัด “เลื่อนไหล” (Flow) และ “ความแม่นยำ” (Precision) รวมถึงการอัปเดตหน้าปัดเดิมอีกกว่า 20 แบบ
 - แอปโน้ต: สามารถสร้างหรือเปิดโน้ตได้บนข้อมือ
 - ฟีเจอร์โทรศัพท์: มีผู้ช่วยพักสาย (Hold Assistant) และการคัดกรองสายโทร (Call Screening) ที่ช่วยจัดการสายเรียกเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
 
รุ่นและสีที่มีให้เลือก
Apple Watch Series 11 มีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียมและไทเทเนียมในหลายสี:
- อะลูมิเนียม: สีเทาสเปซเกรย์ (สีใหม่), ดำเจ็ทแบล็ค, โรสโกลด์ และเงิน
 - ไทเทเนียม: สีธรรมชาติ, ทอง และเทาสเลท
 


ราคาและการวางจำหน่าย
- ราคาเริ่มต้น: 14,900 บาท
 - การสั่งซื้อล่วงหน้า: เริ่มแล้ววันนี้ในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
 - วางจำหน่ายในร้าน: เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 กันยายน
 

