ขอแนะนำ Apple Watch Series 10
Apple Watch ที่เพรียวบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หน้าปัดนาฬิกาใหม่ใน watchOS 11 ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากจอภาพที่ใหญ่ขึ้นและอัตรารีเฟรชที่เร็วขึ้นบน Apple Watch Series 10 โดยหน้าปัดนาฬิกาฟลักซ์มาพร้อมดีไซน์กราฟิกสุดโดดเด่นที่จะเติมเต็มหน้าจอด้วยสีที่เปลี่ยนไปในแต่ละวินาที ส่วนหน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงนั้นมาพร้อมหน้าปัดที่เปล่งประกายโดดเด่นซึ่งจะค่อยๆ ตอบรับกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ โดยเป็นหน้าปัดที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับตัวเรือนไทเทเนียมใหม่ที่มีความแวววาวขั้นสุด
การชาร์จที่เร็วขึ้น
ฝาหลังโลหะแบบใหม่ของ Apple Watch Series 10 มาพร้อมขดลวดสำหรับการชาร์จที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ Series 10 เป็น Apple Watch ที่ชาร์จเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และทำให้การใช้งานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย การชาร์จ 15 นาทีช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน หรือชาร์จ 8 นาทีเพื่อติดตามการติดตามการนอนหลับได้สูงสุด 8 ชั่วโมง และการชาร์จเร็วยังทำให้ผู้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้สูงสุด 80% ในเวลาประมาณ 30 นาทีอีกด้วย
การวัดความลึกและอุณหภูมิสำหรับกิจกรรมทางน้ำและแอปน้ำขึ้น-น้ำลงใหม่
Apple Watch เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำและรอบๆ แหล่งน้ำด้วยดีไซน์กันน้ำขณะว่ายน้ำที่มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร การตรวจจับท่าว่ายน้ำอัตโนมัติ การนับรอบ และวันนี้ watchOS 11 ยังมาพร้อมการออกกำลังกายแบบกำหนดเองสำหรับการว่ายน้ำในสระอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตัววัดความลึกและเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำใหม่ที่ทำให้ Apple Watch Series 10 เป็นคู่หูที่ลงตัวยิ่งขึ้นเมื่อผู้ใช้พร้อมลุยกิจกรรมทางน้ำ
ตัววัดความลึกใหม่สามารถวัดใต้ผิวน้ำได้ลึกถึง 6 เมตร จึงเหมาะสำหรับดำน้ำสนอร์เกิลและดำน้ำตื้น หรือจะใส่ว่ายเล่นในสระ ทะเลสาบ หรือทะเลก็ทำได้ นอกจากนี้ เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำใหม่ยังสามารถวัดอุณหภูมิน้ำได้ทันทีที่ Apple Watch อยู่ใต้ผิวน้ำ ส่วนแอปความลึกในตัวก็สามารถอ่านได้อย่างชัดเจนเมื่ออยู่ใต้น้ำ โดยจะแสดงเวลา ความลึกปัจจุบัน อุณหภูมิของน้ำ ระยะเวลาที่อยู่ใต้น้ำ และความลึกสูงสุด รวมถึงมีตัวเลือกให้เปิดทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อ Apple Watch อยู่ใต้ผิวน้ำ และตัวชี้วัดการออกกำลังกายยังแสดงอุณหภูมิของน้ำระหว่างการว่ายน้ำออกกำลังกายในสระและแหล่งน้ำเปิดได้อีกด้วย
watchOS 11 มาพร้อมแอปน้ำขึ้น-น้ำลงใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้วางแผนและเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมในแหล่งน้ำเปิด และรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ใช้สามารถดูการคาดการณ์ระดับน้ำขึ้นน้ำลงของชายฝั่งและจุดเล่นเซิร์ฟทั่วโลกได้ต่อเนื่องถึง 7 วัน ซึ่งรวมถึงข้อมูลน้ำขึ้นและน้ำลงเต็มที่ ช่วงน้ำขึ้นและน้ำลง ระดับความสูงและทิศทางของน้ำขึ้นน้ำลง ตลอดจนช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะมีการแสดงเทียบกับไทม์ไลน์ นอกจากนี้ยังสามารถดูชายหาดใกล้ๆ ตำแหน่งของตนบนแผนที่ได้อย่างสะดวก และกลไกหน้าปัดใหม่จะแสดงข้อมูลระดับน้ำขึ้นน้ำลง ณ สถานที่โปรดหรือชายหาดที่ใกล้ที่สุดให้มองเห็นได้ง่ายๆ เพียงแค่เหลือบมอง
แอป Oceanic+ สามารถใช้งานบน Apple Watch Series 10 ได้แล้ว และยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่สำหรับการดำน้ำสนอร์เกิล1 โดยแอปนี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Huish Outdoors ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาจุดดำน้ำสนอร์เกิลยอดนิยมที่อยู่ใกล้ๆ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงดูข้อมูลสภาพแวดล้อมที่จัดทำโดยชุมชนนักดำน้ำสนอร์เกิลได้ด้วย และในขณะที่กำลังดำน้ำสนอร์เกิล ก็สามารถดูความลึก อุณหภูมิของน้ำ และอีกมากมายได้ในหน้าจอเดียว
การเล่นเสียงผ่านลำโพงและการแยกเสียงสำหรับการโทร
วันนี้ ลำโพงในตัวของ Apple Watch Series 10 สามารถเล่นเสียงได้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถฟังเสียงจากแอปต่างๆ มากมาย เช่น Apple Music, Apple Podcasts, Apple Books และแอปของบริษัทอื่นๆ จาก Apple Watch ได้เลยเช่นเดียวกับการโทรเข้าออก
Apple Watch Series 10 ยังใช้โครงข่ายประสาทสำหรับแยกเสียงใหม่ที่ทำงานบน Neural Engine แบบ 4-core เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างในขณะคุยโทรศัพท์หรือโทร FaceTime แบบเสียง ดังนั้นปลายสายจึงได้ยินเสียงของผู้ใช้ที่ใสและคมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น ร้านอาหารที่คนแน่นร้าน ถนนในเมือง หรืออยู่กลางแจ้งในวันที่ลมแรง
ผิวสัมผัสอะลูมิเนียมและไทเทเนียมขัดเงาใหม่สุดเรียบหรู
นับเป็นครั้งแรกที่ Apple Watch มาในผิวสัมผัสอะลูมิเนียมแบบขัดเงาในสีดำเจ็ทแบล็คที่ทั้งแวววาวและเปล่งประกายเงางาม ซึ่งการจะทำให้แวววาวได้ขนาดนี้ ตัวเรือนอะลูมิเนียมต้องได้รับการขัดเงาด้วยอนุภาคขนาดนาโน ต่อด้วยกระบวนการชุบผิวถึง 30 ขั้นตอน Apple Watch Series 10 ยังมาในแบบอะลูมิเนียมสีโรสโกลด์ใหม่และแบบอะลูมิเนียมปัดเงาสีเงินยอดนิยมด้วย
นอกจากนี้ Apple Watch Series 10 ยังมีให้เลือกในแบบไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศพร้อมผิวสัมผัสแบบขัดเงา ซึ่งมาแทนที่วัสดุสแตนเลสสตีลที่ใช้ในรุ่นก่อน โดยตัวเรือนใหม่นั้นทำมาจากไทเทเนียมเกรด 5 ที่มีผิวสัมผัสสะท้อนแสงแวววาวราวกับอัญมณี และมีน้ำหนักเบากว่า Apple Watch Series 9 ตัวเรือนสแตนเลสสตีลเกือบ 20% ตัวเรือนไทเทเนียมมาในสามสีสุดโดดเด่น ได้แก่ สีธรรมชาติ สีทอง และสีเทาสเลท
เมื่อปีที่แล้ว Apple Watch ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Apple ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพราะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากแหล่งที่ใหญ่ที่สุดทั้ง 3 แหล่งได้เป็นอย่างมาก ซึ่งได้แก่ วัสดุ ไฟฟ้า และการขนส่ง รวมถึงใช้คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงจากโครงการที่เน้นเรื่องธรรมชาติเพื่อชดเชยการปล่อยส่วนที่เหลืออีกเพียงเล็กน้อย ซึ่ง Apple Watch Series 10 นั้นเปิดตัวมาพร้อมตัวเรือนที่ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% หรือไทเทเนียมรีไซเคิล 95% วันนี้ลูกค้าจึงสามารถเลือก Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ในทุกวัสดุ และนี่ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ Apple 2030 ซึ่งเป็นแผนการอันมุ่งมั่นของ Apple ในการทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของเรามีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030
พบกับ watchOS
นอกจากแอปน้ำขึ้น-น้ำลงใหม่แล้ว Apple Watch Series 10 ยังมาพร้อมข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ทรงพลัง รวมทั้งการปรับแต่งอันชาญฉลาดที่มาพร้อม watchOS 11 ซึ่งรวมถึง
แอปสัญญาณชีพใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูตัวชี้วัดหลักๆ ด้านสุขภาพในตอนกลางคืนได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจบริบทด้านสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น เมื่อมีตัวชี้วัดหลายตัวอยู่นอกช่วงปกติ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนพร้อมข้อความแสดงรายละเอียดว่าการเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆ ในชีวิตอย่างไรบ้าง เช่น ระดับความสูงที่เปลี่ยนแปลงไป การบริโภคแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่ความเจ็บป่วย
คุณสมบัติความหนักเบาในการฝึก เรียกได้ว่าเป็นวิธีใหม่แบบเจาะลึกในการวัดว่าความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายจะส่งผลต่อร่างกายของผู้ใช้อย่างไรบ้างเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกกำลังกายของตัวเองในแต่ละวัน
วงแหวนกิจกรรมที่ปรับแต่งได้มากกว่าที่เคยช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายของวงแหวนกิจกรรมตามวันในสัปดาห์ เพื่อรับแรงจูงใจในปริมาณที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม ผู้ใช้ยังสามารถหยุดวงแหวนของตนได้เป็นเวลาหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือมากกว่านั้น โดยไม่กระทบต่อรางวัลสถิติต่อเนื่อง เพื่อวางแผนวันพักผ่อน ดูแลอาการบาดเจ็บ หรือเพียงแค่หยุดพักสักวัน
watchOS 11 ยังมีวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว, หน้าปัดนาฬิการูปภาพที่ออกแบบใหม่ที่ใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อช่วยผู้ใช้เลือกและจัดองค์ประกอบภาพที่ดีที่สุด, แอปแปลภาษาและเช็คอินบน Apple Watch, ความสามารถในการเลื่อนดูแอปใดๆ ก็ได้ด้วยคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”, สรุปการแจ้งเตือนที่ขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence2 และอื่นๆ อีกมากมาย
ลูกค้าในออสเตรเลีย, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา รวมถึงอีก 49 ประเทศและภูมิภาคสามารถสั่งซื้อ Apple Watch SE ล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ และจะวางจำหน่ายในร้านเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน สำหรับ Apple Watch Series 10 จะเปิดให้สั่งซื้อเร็วๆ นี้
Apple Watch Series 10 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท
Apple Watch SE วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 7,900 บาท
สาย Apple Watch ใหม่พร้อมให้สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store โดยจะวางจำหน่ายในร้านเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน