แคนนอน เปิดตัว เลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM เลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษรุ่นใหม่ล่าสุด ให้มุมมองและอิสระในการถ่ายภาพที่กว้างกว่าที่เคย
เปิดฟังก์ชันเลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM เลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษตัวแรกในระบบ EOS R System พร้อมทางยาวโฟกัสที่ระยะ 14 มม. กำลังขยายสูงสุดถึง 0.38 เท่าจากระยะโฟกัสที่ 35 มม. รวมถึงระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 7 สต็อปในดีไซน์ที่กะทัดรัด พกพาสะดวก
แคนนอน เปิดตัวเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษ RF14-35mm f/4L IS USM หนึ่งในเลนส์ซูมสามกษัตริย์ตระกูล f/4L ของเมาท์ RF ได้แก่ เลนส์ RF 24-105mm f/4L IS USM และ RF 70-200mm f/4L IS USM ด้วยช่วงซูมที่ครอบคลุมตั้งแต่ 14-35 มม. พร้อมกำลังขยายสูงสุดถึง 0.38 เท่าจากระยะโฟกัสที่ 35 มม. ทำให้ RF14-35mm f/4L IS USM เป็นเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษสำหรับกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่ถูกดีไซน์ให้มีความเรียวบางและขนาดเล็กกะทัดรัด เพียบพร้อมด้วยประสิทธิภาพอันเหนือระดับในราคาที่เข้าถึงได้ ช่วยขยายมุมมองการถ่ายภาพให้กว้างขึ้นแม้อยู่ในที่เดิม สามารถพกพาได้สะดวก เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพสถาปัตยกรรมที่สวยงามตระการตา ให้ทั้งช่างภาพมืออาชีพและผู้ที่รักการถ่ายภาพได้เนรมิตภาพถ่ายให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบตามต้องการ
นายนิฐิวัฒน์ วัจนวรานันท์ – ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์อิมเมจจิ้งคอมมูนิเคชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแคนนอนได้พัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มเลนส์ตระกูล RF ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช่างภาพมืออาชีพที่มีประสบการณ์และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพด้วยเลนส์ประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ โดย RF14-35mm f/4L IS USM ถือเป็นเลนส์ RF รุ่นแรกของแคนนอนที่มีทางยาวโฟกัสกว้างพิเศษถึง 14 มม. พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวเลนส์และช่วงซูมที่กว้างตั้งแต่ 14-35 มม. เลนส์นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บภาพที่ต้องการเก็บรายละเอียดในมุมกว้างอย่างการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ภาพบุคคล ตลอดจนทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่”
ขยายมุมมองได้กว้างถึง 14 มม. พร้อมกำลังขยายสูงสุด 0.38 เท่า
ไม่ว่าจะสนุกไปกับการถ่ายภาพภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมในร่มหรือกลางแจ้ง ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังของRF14-35mm f/4L IS USM ทำให้สามารถเก็บภาพสภาพแวดล้อมได้มากขึ้นแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่จำกัด และช่วยเน้นมุมมองของฉากให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเก็บภาพได้กว้างขึ้นถึง 2 มม. เมื่อเทียบกับเลนส์ EF16-35mm f/4L IS USM
นอกจากนี้ เลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM ยังออกแบบให้มีระยะท้ายเลนส์ที่สั้น ทำให้สามารถถ่ายภาพด้วยระยะโฟกัสใกล้สุดที่ประมาณ 0.2 ม. มาพร้อมกำลังขยายสูงสุดถึง 0.38 เท่าจากระยะโฟกัสที่ 35 มม. รวมถึงระบบโฟกัสที่ทำงานโดยการขยับชิ้นเลนส์ด้านหลัง ช่วยขจัดปัญหาการขยายขนาดของวัตถุจากการโฟกัส (focus breathing) เพื่อการปรับโฟกัสที่ไวยิ่งขึ้นและกลุ่มเลนส์โฟกัสที่มีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มความเร็วในการออโต้โฟกัสสำหรับการถ่ายระยะใกล้ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างมั่นใจด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำถึง 4 วินาที กับกล้อง EOS R5 และ EOS R6
เลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM เป็นเลนส์ RF รุ่นแรกที่มาพร้อมทางยาวโฟกัสกว้างพิเศษที่ 14 มม. และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลในตัวเลนส์ โดยป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 5.5 สต็อป ตามมาตรฐานของ CIPA และเมื่อจับคู่กับกล้องที่รองรับอย่างกล้อง EOS R5 และ EOS R6 จะช่วยป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 7 สต็อป ที่ทำงานผสานกันระหว่างมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (In-body IS) และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลในตัวเลนส์ ทำให้หมดปัญหาภาพเบลอเมื่อถือถ่ายยามกลางคืนด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำถึง 4 วินาที ในระยะโฟกัสที่ 35 มม. ให้เป็นจริง
นอกจากคุณภาพอันเหนือชั้นของ RF14-35mm f/4L IS USM ช่วยให้ภาพที่ได้มีความคมชัดยิ่งขึ้นเมื่อถ่ายภาพในที่มืดโดยไม่มีขาตั้งกล้องหรือในสถานที่ที่มีพื้นที่แคบและจำกัด อีกทั้งยังมีระบบมอเตอร์แบบ Nano USM ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้การออโต้โฟกัสมีความรวดเร็วและแม่นยำสูงในการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น
คุณภาพของภาพที่สูงขึ้นพร้อมไปด้วยทุกที่ในขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
ในขณะที่เลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM สามารถเก็บภาพได้กว้างกว่าเลนส์ EF ถึง 2 มม. แต่คุณสมบัติของเลนส์ RF รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีขนาดที่สั้นและเบากว่าเลนส์ EF16-35mm f/4L IS USM ประมาณ 12% ซึ่งนอกจากการเก็บภาพได้กว้างกว่าเลนส์รุ่นก่อนหน้าแล้ว ยังมีการจัดเรียงชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม (Aspherical lenses) ทั้งสามชิ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วย เลนส์ ultra-low dispersion (UD) หนึ่งชิ้น ช่วยลดการกระเจิงของแสง และเลนส์ UD สามชิ้น (รวมเลนส์ UD spherical) พร้อมส่งมอบภาพถ่ายคุณภาพสูง จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเลนส์จากแคนนอน
ด้วยการออกแบบที่ใช้การเคลือบแบบ Subwavelength Structure Coating (SWC) และแบบ Air Sphere Coating (ASC) ทำให้ช่วยลดปัญหาการเกิดแสงแฟลร์อย่างเห็นได้ชัด เช่น แสงหลอกเมื่อถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่สว่าง อีกทั้งยังมอบความอุ่นใจให้กับผู้ใช้ด้วยการออกแบบโครงสร้างเลนส์มาเพื่อป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ โดยส่วนสำคัญต่างๆ ของชิ้นเลนส์จะถูกซีลป้องกันไว้ไม่ให้น้ำและฝุ่นเข้าไป เลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM จึงสามารถทนต่อการถ่ายภาพกลางแจ้งได้เกือบทุกสถานการณ์และทำให้คุณเต็มที่ไปกับการถ่ายภาพได้อย่างไร้กังวล รวมไปถึงชิ้นส่วนด้านหน้าของเลนส์ที่ถูกเคลือบด้วยฟลูออรีนเพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยไล่ความมันและน้ำ ช่วยให้ความมันที่เกาะติดกับเลนส์สามารถเช็ดออกด้วยผ้าแห้งได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ตัวทำละลาย