รีวิว Ragnarok 2021 มหาศึกชี้ชะตา
รีวิว Ragnarok 2021 มหาศึกชี้ชะตา
นักแสดง : เดวิด สตัคสตัน โจนาส สแตรนด์ กราฟลี่ เฮอร์แมน เติมเมรัส
เหมือนนิ่งๆ แต่เนื้อหาไปเร็วกว่าที่คิด เหมือนจะน่าเบื่อแต่ดูได้ตลอดไม่มีช่วงไหนหยิบโทรศัพท์มาเล่นเลย
เป็นซีรีย์ที่พูดถึงการทำสงครามกันระหว่างเทพเจ้าและยักษ์อสูร ฝ่ายเทพก็ได้แก่เทพเจ้า “ธอร์”และพรรคพวก ใช่แล้ว “ธอร์” เดียวกับในอเวนเจอร์นั่นแล่ะ แต่เป็นการตีความใหม่
เทพเจ้า “ธอร์” ฉบับซีรีย์นี้ เป็นการหยิบยกตำนานของเทพเจ้ามีเป็นความเชื่อตามประวัติจริงไม่ได้มาดัดแปลงแบบในจักรวาบมาเวล
แล้วนำมาตีความให้เป็นแบบฉบับของตัวเอง โดยนำเทพเจ้าทั้งตำนาน มาเล่าถึงการกลับมาเกิดใหม่เป็นเด็กวัยรุ่นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ประเทศนอร์เวย์ แน่หล่ะ นี่เป็นซีรีย์จากประเทศนอร์เวย์นี่นะ
โดยเล่าว่าฝ่ายยักษ์ได้ใช้ชีวิตบนโลกด้วยความเป็นอมตะผ่านมาทุกยุคทุกสมัย จนในปัจุบันได้มาเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลและกุมอำนาจความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนี้ไว้
และบริษัทนี้เป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อมในเมืองให้สูญเสียไปทีละน้อย
ตัวซีรีย์มีทั้งการพูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเมืองภายใน ปัญหาชีวิตวัยรุ่น และปัญหาความขัดแย้งของทั้งฝ่ายยักษ์และเทพเจ้า แต่ดูรวม ๆ แล้วเนื้อหาเล่าเรื่องเหล่านี้ได้อย่างเนียนกลมกลืมกันไปค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว
สิ่งที่ผู้เขียนชอบในซีรีย์เรื่องนี้ก็คือ ตัวหนังได้คุมโทนบรรยากาศของเนื้อหาไว้ได้ดู “เรียล” มาก ดู “สมจริง” เป็นธรรมชาติที่จับต้องและเข้าถึงได้
ตัวซีรีย์ไม่เล่นใหญ่ ไม่ทะเยอทะยาน เล่าเรื่องในวงจำกัดแต่เข้าถึงประเด็นไม่ออกนอกลู่นอกทาง ทำให้คนดูอย่างผู้เขียนได้ติดตามเนื้อหาไปอย่างไม่เบื่อ คือไม่ยืดยาดไม่เล่นใหญ่จนคุมไม่อยู่
ตัวละครในเรื่องค่อนข้างแคสได้สมจริงมาก ไม่เน้นหล่อ เน้นสวย แต่เน้นเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนปุถุชนคนทั่วไป หน้าตาให้ความรู้สึกว่า สามารถเป็นเพื่อนบ้านของใครก็ได้ ไม่โดดเด่นอะไรเลย
อย่างตัวละคร เทพเจ้า “ธอร์” เขาใช้นักแสดงตัวใหญ่ ๆ หน้าตาอย่างกับพวกไวกิ้ง ที่ดูเหมือน นักรบถึกเถื่อน แข็งแกร่ง ดุดัน และดูโบราณมาก 55555 ส่วน เทพเจ้า “โลกิ” ก็ดู “เจ้าเลห์” ไว้ใจไม่ได้ แต่ยิ่งดูก็ยิ่งเชื่อว่า เอออ พวกนี้แหล่ะ คือคนในประวัติเทพเจ้าตามตำนานจริง ๆ
เนื้อหาเต็มไปด้วยบทสนทนาที่ไม่ได้คมคายอะไร เหมือนชีวิตชาวบ้านทั่วไป ฉากแอคชั่นน้อยถึงน้อยมาก ความสนุกจะไปอยู่ที่การคอยตามดูว่า ใคร…จะมาเป็นคาแรคเตอร์เทพเจ้าคนต่อไป
และทีมพระเอกที่เป็นแค่เด็กนักเรียนที่ได้รับพลังมาแบบ งง งง ใช้พลังก็ไม่เป็น ประวัติศาสตร์ใด ๆ ก็ไม่รู้ และจะต่อกรกับทีมยักษ์อสูรที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง กลอุบายและผ่านโลกมาอย่างยาวนานได้อย่างไร ยิ่งดูก็ยิ่งเพลิน
ตอนนี้ “Ragnarok”ออกมาเป็นซีซันที่ 2 แล้ว ซีซั่นนี้สนุกกว่าซีซั่นแรกมากอยู่พอสมควร เดินเรื่องเร็วกว่า กระชับกว่า และเข้มข้นมากกว่า
จัดไปเลยอย่าช้า ที่ “Netflix” เลยจร้าาา