Jiu Jitsu 2020 from Dimitri Logothetis

Jiu Jitsu 2020
Dimitri Logothetis
นิโคลัส เคจ / ทัชชกร ยีรัมย์ / แมรี่ อัฟเกโรปูลอส / แฟรงค์ กริลโล / อัลเลน เม้าส์ซี่

โปสเตอร์เป็นยังไง เนื้อในก็หยังงั้น

เกริ่นก่อนว่า
หนังเรื่องนี้เปนกระแส “ไวรัล” ในโลกโซเชียลบ้านเราอยู่พักนึง อันเนื่องมาจากโปสเตอร์ที่ดูค่อนข้าง “นู๊บ” มาก ๆ จนคนเขาเอาไปเปรียบกับหนังไทยเรื่อง “The Snake” แล้วพากันเดาว่าเนื้อหาจะเป็นยังไง

แต่แล้วเมื่อหนังตัวอย่างมา ก็ทำให้คนยิ่งแอบลุ้นเข้าไปอีก เพราะตัวอย่างหนัง ตัดออกมาได้ค่อนข้างเร้าใจ และดูมีของมากขึ้น

ผู้เขียนเองก็แอบลุ้นอยู่ จนเมื่อได้มีโอกาสดูหนังเต็ม ๆ

คือจะบอกว่า “โปสเตอร์” เป็นยังไง “เนื้อใน” ก็หยังงั้นเลย

จะบอกว่ามันเป็นหนังคัลท์ ผู้เขียนเองก็ไม่เถียง เพราะมันคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้

เนื้อเรื่องว่าด้วยการต่อสู้ของ “มนุษย์” ที่ถูกเลือก ให้ฟัดกับ “เอเลี่ยน” ด้วยศิลปะการต่อสู้ เพื่อปกป้องโลก แค่นี้แหล่ะ รู้แค่นี้ก็พอแล้วจริง ๆ ^..^

งานด้านภาพ


เหมือนผู้สร้างจะสนุกกับงานของตัวเองมาก สนุกกับการหาลูกเล่นด้านภาพ ด้านมุมกล้องต่าง ๆ แล้วก็จับยัดใส่มาหวังให้คนดูทึ่งในความเป็นมุมกล้องที่หลากหลาย
แบบไม่แคร์ความต่อเนื่อง ไม่แคร์อารมณ์ว่ามันจะสอดคล้องกันหรือไม่ มีอยู่ซีนนึง วิ่ง ๆ มาอยู่ดี ๆ เสื้อเปลี่ยนไปซะงั้น !!

บางฉากกลายเป็น “มุมมองบุคลที่ 1” ซะงั้น!! บางฉากเป็นมุมกล้องแบบ “เฮลท์แฮนด์” ไปอีก
บางฉากเป็น “ลองเทค” ไม่สนด้วยว่างานมันไม่ เรียบ ภาพสะดุด ซีนโดด ก็ปล่อยไป เหมือนทำผิดก็ไม่เป็นไร ใส่ไปก่อนแล้วลืมตัดออก

ฉากบู้ งานขายแอคชั่นจนเป็นที่มาของชื่อเรื่อง

ซีนเตะต่อยหลายซีน นักแสดงยืนนิ่งรอคิว จนผู้เขียนเองเข้าใจผิด ว่าตัวละครยืนนิ่งทำไม มองอะไรอยู่ ที่ไหนได้ ยืนรอสตั๊นเอามีดมาฟัน ฉากนั้นเป็นฉาก “ลองเทค”
ฉากต่อสู้ หลอกมาก ปลอมมาก ดูแสดงมาก อารมณ์เหมือนดูโชว์แอคชั่นฮอลลีวู๊ดที่ “ดรีมเวิลด์”

เนื้อเรื่อง
ไม่มีที่มาที่ไป เหมือนกับว่า ไม่ต้องคำนึงถึงเส้นเรื่องใด ๆ เพราะไม่งั้นจะใส่ฉาก “บู้” ที่อยากโชว์ไม่ได้ และการต่อสู้ ก็พื้น ๆ มาก แทบจะเป็นฉากที่เตะต่อยกันธรรมดา โดยไม่ต้องออกแบบอะไร แค่ใช้ท่าพื้นฐานที่ซ้อม ๆ กันทั่วไป

ลำดับเรื่องไม่ต่อเนื่อง กระโดดไปกระโดดมา สู้อยู่ดี ๆ ไปเดินหล่อ ๆ ในทุ่งหญ้าซะงั้น
เดินไป ๆ เจอเพื่อน หันมา เจอศัตรู สู้กับศัตรู วาร์ปมาห้องสอบสวนในฐานทัพ คุยเสร็จเดินเข้าอยู่ในป่า เหมือนถ่ายฟุตมาแล้วก็หยิบ ๆ ลากใส่โปรแกรมตัดต่อให้หมดที่ถ่ายมา

งาน CG
ใส่เอาตามใจชอบ ลอยละล่องออกมาแทบจะนอกจอ เหมือนโหลดเอฟเฟคสำเร็จรูปมาจับใส่ ๆ เอาตามใจชอบ

คือมัน “คัลท์” จริง ๆ
แต่ถ้าถามว่ามันบันเทิงไม๊ มันก็ตอบโจทย์อยู่นะ คือมันใส่มาเต็มเหนียวเลยไง

หน้าหนังบอกแล้วว่านี่คือหนัง “ บู้ ” หนัง “ ต่อสู้ ” นะ ตัวหนังก็ตอบโจทย์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่หลอก ไม่แกง สู้กันทั้งเรื่อง

นักแสดงแต่ละคนก็ใส่กันเต็มที่ ไม่มี อิดออด ไม่จกตาด้วย มีซีนกันทุกคน ทั้ง นิโคลัส เคจ ทั้งจา พนม ไม่มีมาออกแค่แว๊บ ๆ ออกเต็ม ๆ กันทุกคน

ถ้าไม่ต้องซีเรียสกับรายละเอียดที่ผู้เขียน เขียนไว้ข้างต้นก็รับรองว่า ได้ดูฉากต่อสู้กันอิ่มแน่นอน